MOBILE

ผู้เขียน
Raksa Content Team

ตากุ้งยิง (Hordeolum, Stye)

✅ บทความนี้ได้รับการตรวจสอบแล้ว


  • ตากุ้งยิงเป็นโรคตาที่พบได้บ่อย เพราะเกิดจากฝุ่นหรือสิ่งสกปรกไปอุดตันในรูขุมขน หรือในบางกรณี อาจเกิดจากต่อมไขมันในรูขุมขนเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้มีอาการนูนบวมแดงขึ้นมาบริเวณเปลือกตา สามารถเกิดได้ทั้งด้านนอกและด้านในเปลือกตา

  • โดยปกติตากุ้งยิงสามารถรักษาเองได้ในเบื้องต้นที่บ้าน ด้วยการรักษาความสะอาดและประคบน้ำอุ่นบริเวณที่อักเสบ จะช่วยทำให้อาการอักเสบลดลงได้ในระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่หากมีการติดเชื้อที่รุนแรงขึ้นหรืออาการแย่ลง ให้รีบไปพบแพทย์

  • การรักษาความสะอาดบริเวณใบหน้าและรอบดวงตาช่วยป้องกันการเกิดโรคตากุ้งยิงได้ โดยเฉพาะการล้างเครื่องสำอาง การใส่คอนแทคเลนส์ที่สะอาด ไม่ขยี้ตา จะลดโอกาสในการสัมผัสเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุทำให้ต่อมไขมันที่เปลือกตาอักเสบจนอุดตันได้




ตากุ้งยิงคืออะไร?


ตากุ้งยิง (Stye) เกิดจากการอักเสบของต่อมไขมันบริเวณเปลือกตา สามารถเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือการอุดตันของต่อมไขมันในรูขุมขนบริเวณดังกล่าวก็ได้เช่นกัน ทำให้ตากุ้งยิงมีลักษณะคล้ายกับการเป็นสิว สร้างความรู้สึกไม่สบายตา สำหรับบางกรณีอาจมีอาการคันและน้ำตาไหลร่วมด้วย


ตากุ้งยิง

ประเภทของตากุ้งยิง


โรคตากุ้งยิงมี 2 ชนิด คือ


  • ตากุ้งยิงแบบไม่ติดเชื้อ (Chalazion)
    ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ (Non-infectious) แต่เกิดจากการมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในรูขุมขนบริเวณเปลือกตาหรือขนตา สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเปลือกตาบนและล่าง ทำให้ไขมันที่ถูกผลิตขึ้นมาจากต่อมไขมันที่เปลือกตา (Meibomian Gland) ไม่สามารถระบายออกมาได้ บริเวณที่เกิดตากุ้งยิงชนิดไม่ติดเชื้อจะเกิดอาการบวมแดงและมักจะไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ

  • ตากุ้งยิงแบบติดเชื้อ (Hordeolum)
    เป็นตากุ้งยิงที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus บริเวณต่อมไขมันที่อยู่ในรูขุมขนบนเปลือกตาหรือรูขนตา ทำให้เปลือกตาบวมแดงและรู้สึกเจ็บ แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
    • ตากุ้งยิงชนิดด้านนอก (External Hordeolum) จะมีตุ่มหนองบริเวณเปลือกตาหรือตรงแนวขนตาสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
    • ตากุ้งยิงชนิดด้านใน (Internal Hordeolum) จะมีตุ่มหนองบริเวณด้านในที่สัมผัสกับดวงตา มองเห็นได้ยากกว่า

ประเภทของตากุ้งยิง

สาเหตุของตากุ้งยิง


  • ตากุ้งยิงแบบไม่ติดเชื้อ (Chalazion) เกิดจากการอุดตันของรูขุนขนบริเวณเปลือกตาโดยสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละอองในอากาศ ทำให้ไขมันที่ผลิตจากต่อมไขมันออกมาไม่ได้ เมื่ออุดตันนานเข้าก็จะขยายใหญ่และนูนเป็นตากุ้งยิง

  • ตากุ้งยิงแบบไม่ติดเชื้อ (Chalazion) เกิดจากการอุดตันของรูขุนขนบริเวณเปลือกตาโดยสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละอองในอากาศ ทำให้ไขมันที่ผลิตจากต่อมไขมันออกมาไม่ได้ เมื่ออุดตันนานเข้าก็จะขยายใหญ่และนูนเป็นตากุ้งยิง

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดตากุ้งยิง


  • การนำมือที่ไม่สะอาดไปสัมผัสดวงตาหรือขยี้ตา
  • การใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ในขณะที่มือไม่สะอาด หรือไม่ได้ล้างทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ก่อนใช้งาน
  • ใช้เครื่องสำอางแล้วล้างไม่หมดหรือล้างเครื่องสำอางไม่สะอาดพอ รวมถึงการใช้เครื่องสำอางหมดอายุก็เป็นต้นเหตุตากุ้งยิงได้
  • เคยเป็นตากุ้งยิง หรือเคยเป็นโรคเปลือกตาอักเสบมาก่อน
  • มีปัญหาด้านสุขภาพผิวบางอย่าง เช่น เป็นสิว โรคผิวหนังอักเสบ โรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน
  • ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำลง เช่น การเป็นโรคเบาหวาน

ตากุ้งยิง อาการ

อาการตากุ้งยิง


อาการของผู้ที่เป็นตากุ้งยิงที่เห็นได้ชัดคือ อาการบวมแดงของเปลืองตามีลักษณะคล้ายเป็นสิว บางรายมีไข้ร่วมด้วย แต่นอกจากนี้ผู้ที่เป็นตากุ้งยิ่งยังมีอาการอื่นๆ ดังนี้


  • มีตุ่มนูนขึ้นที่เปลือกตา
  • เปลือกตาบวม แดง
  • มีอาการเจ็บบริเวณที่บวม
  • คันตา
  • ตาพร่ามัว
  • ตาไวต่อแสง
  • ไม่สบายตาเวลากระพริบ
  • น้ำตาไหล

ภาวะแทรกซ้อนจากตากุ้งยิง


ปกติแล้วตากุ้งยิงสามารถหายได้ด้วยตัวเอง แต่ในบางกรณีที่อาการรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นอาจทำให้การอักเสบลุกลามมากขึ้นได้ เช่น การอับเสบอาจลามไปที่เนื้อเยื่ออื่นๆ รอบเปลือกตา ทำให้ตาอักเสบมากขึ้นและขยายวงกว้างออกไป เรียกว่า Preseptal Cellulitis ซึ่งเป็นอาการแทรกซ้อนทางตาที่พบได้บ่อย


อาการที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องไปพบแพทย์


ถึงแม้ตากุ้งยิงที่รู้สึกเจ็บหรือบวมจากการอักเสบจะสามารถหายไปเองได้ แต่หากมีอาการติดเชื้อที่มากขึ้นหรืออาการไม่ดีขึ้น ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา เช่น เริ่มมีหนองที่มีลักษณะเป็นก้อนที่ตาและเริ่มปวด มีอาการบวมแดงเพิ่มขึ้น เริ่มมีอาการตาพร่า


consult doctor

การรักษาตากุ้งยิง


ช่วงแรกของการเป็นตากุ้งยิงสามารถรักษาเองได้ที่บ้าน ดังนี้


  • เอาผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น บิดน้ำออกแล้วเอามาประคบที่ตาทิ้งไว้ 10-15 นาที วันละ 3-5 ครั้ง การใช้น้ำอุ่นประคบจะทำให้รูที่บริเวณเปลือกตาขยายออก ลดการอุดตัน ทำให้ลดอาการบวมและเจ็บเปลือกตาได้

  • หากมีหนองบริเวณเปลือกตาด้านนอก ให้ใช้ยาหยอดตาหรือขี้ผึ้งป้ายตา

  • ในกรณีที่มีหนองอยู่บริเวณเปลือกตาด้านใน และอาการไม่ดีขึ้นใน 2-3 วัน ให้ไปพบแพทย์เพื่อเอาหนองออก

ตากุ้งยิง ยาหยอดตา

ยารักษาตากุ้งยิง


  • ยาหยอดตา Tobramycin Ophthalmic Solution ใช้หยอดทุก 4 ชั่วโมง
  • ยาป้ายแผล Tobramycin Ophthalmic Ointment ป้ายแผลทุก 4 ชั่วโมง และ Bacitracin Ophthalmic Ointment จะใช้ป้ายแผลวันละ 2-6 ครั้งแล้วแต่อาการ
  • ยาปฏิชีวนะจะใช้เป็นกลุ่มยาที่ใช้สำหรับระงับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ได้แก่ Erythromycin, Cloxacillin, Dicloxacillin และ Tetracycline

buy drug online on raksa app

ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นตากุ้งยิง


Do


  • เมื่อเป็นตากุ้งยิงควรประคบผ้าชุบน้ำอุ่นเพื่อลดการอักเสบวันละ 3-5 ครั้ง ครั้งละประมาณ 10-15 นาที
  • รักษาความสะอาดของดวงตาเพื่อไม่ให้มีเชื้อแบคทีเรียและเกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น
  • ควรล้างมือบ่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เชื้อแบคทีเรียที่อาจอยู่บนมือเข้าตา
  • งดการใช้เครื่องสำอางเพื่อให้ไม่เกิดสิ่งอุดตันเพิ่มขึ้น
  • งดการใส่คอนแทคเลนส์ เพื่อลดการสัมผัสดวงตา

Don’t


  • ห้ามผู้ป่วยบีบหนองที่ตาออกเองโดยเด็ดขาดเพราะการบีบอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปมากกว่าเดิม หรือทำให้อักเสบมากยิ่งขึ้นได้
  • ไม่ควรใช้ของใช้ เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ร่วมกับคนอื่น
  • ห้ามขยี้ตา เพราะมืออาจไม่สะอาดและเพิ่มการอักเสบได้

ตากุ้งยิง รักษา

การป้องกันตากุ้งยิง


  • ควรหมั่นดูแลรักษาดวงตาและบริเวณโดยรอบให้สะอาดอยู่เสมอ
  • ไม่ควรนำมือไปสัมผัสใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาโดยไม่จำเป็น
  • ไม่ควรขยี้ตาเพราะจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ดวงตาและเกิดการอักเสบได้
  • หากใช้เครื่องสำอาง ควรล้างทำความสะอาดให้หมด โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา
  • หากใส่คอนแทคเลนส์ ควรเลือกใช้คอนแทคเลนส์ที่สะอาดและได้มาตรฐาน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตากุ้งยิง


1. ตากุ้งยิงติดต่อไหม?


ตากุ้งยิงบางชนิดเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเชื้อแบคทีเรียนี้สามารถติดกันได้จากการสัมผัสแผลโดยตรง สัมผัสสิ่งของ หรือใช้ของร่วมกัน นอกจากนี้ตากุ้งยิงมักจะเกิดขึ้นที่ตาข้างใดข้างหนึ่ง แต่การเผลอขยี้ตาหรือจับตาบ่อยๆ อาจทำให้ติดเชื้อที่ตาอีกข้างหนึ่งด้วย


อย่างไรก็ตาม โอกาสที่เชื้อตากุ้งยิงจะติดต่อจากคนสู่คนมีน้อยมากๆ


2. ตากุ้งยิงหายเองได้ไหม?


โรคตากุ้งยิงสามารถหายเองได้ โดยตุ่มหนองจะหายไปเองใน 4-5 วัน ดังนั้นเพื่อให้ไม่มีการติดเชื้อหรืออักเสบเพิ่มเติมจึงไม่ควรเอามือสัมผัสกับดวงตาและรอบๆ ดวงตาโดยเฉพาะการขยี้ตา


3. ตากุ้งยิงไม่ยอมยุบ ควรทำอย่างไร?


ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบดวงตาเพื่อลดการอักเสบบวมของเปลือกตา และทำความสะอาดรอบๆ ดวงตาให้สะอาด อาจใช้ยาหยอดตาหรือยาป้ายตาร่วมด้วยเพื่อลดการติดเชื้อแบคทีเรีย


4. ทำไมตากุ้งยิงชอบขึ้นที่เดิมซ้ำๆ?


ผู้ป่วยที่ตุ่มหนองหายเองจากการใช้ยาหยอดตาหรือยาป้ายตา รวมถึงผู้ป่วยที่ได้รับการเจาะและขูดหนองออกอาจเกิดตากุ้งยิงซ้ำได้ เนื่องจากหนองออกไม่หมดทำให้เกิดการอักเสบซ้ำ รวมถึงอาจเกิดหนองซ้ำได้หากไม่รักษาความสะอาดรอบๆ ดวงตา


5. บีบหนองตากุ้งยิงจะช่วยให้หายเร็วขึ้นไหม?


การบีบหนองไม่ช่วยให้ตากุ้งยิงหายเร็วขึ้น แต่กลับทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบเพิ่มขึ้น หรือมีเชื้อแบคทีเรียลามไปติดยังเนื้อเยื่ออื่นๆ รอบดวงตาอีกด้วย หากต้องการบีบควรทำโดยแพทย์หรือพยาบาล


6. เป็นตากุ้งยิงจะทำให้มีไข้หรือไม่?


หากมีการอักเสบที่เปลือกตาและมีอาการบวมแดง หรือที่เรียกว่า Preseptal Cellulitis จะทำให้ผู้ป่วยมีไข้ได้


7. เจาะหนองตากุ้งยิงเจ็บไหม?


ก่อนการเจาะหนองแพทย์จะทำการหยอดยาชาที่บริเวณตาข้างที่จะดูดเพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างการดูดเจาะหนองออกมา หลังจากยาชาออกฤทธิ์แล้วแพทย์จะใช้เข็มเบอร์เล็กในการดูดหนองออกมาเพื่อให้อาการช้ำหลังจากนี้น้อยที่สุด ดังนั้นการเจาะหนองตากุ้งยิงจึงเจ็บน้อยลง


8. ตากุ้งยิงต้องประคบร้อนหรือประคบเย็น?


เป็นตากุ้งยิงควรใช้การประคบร้อน โดยการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นแล้วประคบที่ตา 10-15 นาที เพื่อให้ลดการอักเสบที่บริเวณเปลือกตาและช่วยให้เปลือกตาที่เกิดการบวมแดงลดลงได้ด้วย




✅ ตรวจสอบข้อมูลโดย


นพ. ปองคุณ อารยะทรงศักดิ์




แหล่งข้อมูล


ผู้เขียน
Raksa Content Team

ตากุ้งยิง (Hordeolum, Stye)

✅ บทความนี้ได้รับการตรวจสอบแล้ว


  • ตากุ้งยิงเป็นโรคตาที่พบได้บ่อย เพราะเกิดจากฝุ่นหรือสิ่งสกปรกไปอุดตันในรูขุมขน หรือในบางกรณี อาจเกิดจากต่อมไขมันในรูขุมขนเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้มีอาการนูนบวมแดงขึ้นมาบริเวณเปลือกตา สามารถเกิดได้ทั้งด้านนอกและด้านในเปลือกตา

  • โดยปกติตากุ้งยิงสามารถรักษาเองได้ในเบื้องต้นที่บ้าน ด้วยการรักษาความสะอาดและประคบน้ำอุ่นบริเวณที่อักเสบ จะช่วยทำให้อาการอักเสบลดลงได้ในระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่หากมีการติดเชื้อที่รุนแรงขึ้นหรืออาการแย่ลง ให้รีบไปพบแพทย์

  • การรักษาความสะอาดบริเวณใบหน้าและรอบดวงตาช่วยป้องกันการเกิดโรคตากุ้งยิงได้ โดยเฉพาะการล้างเครื่องสำอาง การใส่คอนแทคเลนส์ที่สะอาด ไม่ขยี้ตา จะลดโอกาสในการสัมผัสเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุทำให้ต่อมไขมันที่เปลือกตาอักเสบจนอุดตันได้




ตากุ้งยิงคืออะไร?


ตากุ้งยิง (Stye) เกิดจากการอักเสบของต่อมไขมันบริเวณเปลือกตา สามารถเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือการอุดตันของต่อมไขมันในรูขุมขนบริเวณดังกล่าวก็ได้เช่นกัน ทำให้ตากุ้งยิงมีลักษณะคล้ายกับการเป็นสิว สร้างความรู้สึกไม่สบายตา สำหรับบางกรณีอาจมีอาการคันและน้ำตาไหลร่วมด้วย


ตากุ้งยิง

ประเภทของตากุ้งยิง


โรคตากุ้งยิงมี 2 ชนิด คือ


  • ตากุ้งยิงแบบไม่ติดเชื้อ (Chalazion)
    ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ (Non-infectious) แต่เกิดจากการมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในรูขุมขนบริเวณเปลือกตาหรือขนตา สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเปลือกตาบนและล่าง ทำให้ไขมันที่ถูกผลิตขึ้นมาจากต่อมไขมันที่เปลือกตา (Meibomian Gland) ไม่สามารถระบายออกมาได้ บริเวณที่เกิดตากุ้งยิงชนิดไม่ติดเชื้อจะเกิดอาการบวมแดงและมักจะไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ

  • ตากุ้งยิงแบบติดเชื้อ (Hordeolum)
    เป็นตากุ้งยิงที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus บริเวณต่อมไขมันที่อยู่ในรูขุมขนบนเปลือกตาหรือรูขนตา ทำให้เปลือกตาบวมแดงและรู้สึกเจ็บ แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
    • ตากุ้งยิงชนิดด้านนอก (External Hordeolum) จะมีตุ่มหนองบริเวณเปลือกตาหรือตรงแนวขนตาสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
    • ตากุ้งยิงชนิดด้านใน (Internal Hordeolum) จะมีตุ่มหนองบริเวณด้านในที่สัมผัสกับดวงตา มองเห็นได้ยากกว่า

ประเภทของตากุ้งยิง

สาเหตุของตากุ้งยิง


  • ตากุ้งยิงแบบไม่ติดเชื้อ (Chalazion) เกิดจากการอุดตันของรูขุนขนบริเวณเปลือกตาโดยสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละอองในอากาศ ทำให้ไขมันที่ผลิตจากต่อมไขมันออกมาไม่ได้ เมื่ออุดตันนานเข้าก็จะขยายใหญ่และนูนเป็นตากุ้งยิง

  • ตากุ้งยิงแบบไม่ติดเชื้อ (Chalazion) เกิดจากการอุดตันของรูขุนขนบริเวณเปลือกตาโดยสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละอองในอากาศ ทำให้ไขมันที่ผลิตจากต่อมไขมันออกมาไม่ได้ เมื่ออุดตันนานเข้าก็จะขยายใหญ่และนูนเป็นตากุ้งยิง

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดตากุ้งยิง


  • การนำมือที่ไม่สะอาดไปสัมผัสดวงตาหรือขยี้ตา
  • การใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ในขณะที่มือไม่สะอาด หรือไม่ได้ล้างทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ก่อนใช้งาน
  • ใช้เครื่องสำอางแล้วล้างไม่หมดหรือล้างเครื่องสำอางไม่สะอาดพอ รวมถึงการใช้เครื่องสำอางหมดอายุก็เป็นต้นเหตุตากุ้งยิงได้
  • เคยเป็นตากุ้งยิง หรือเคยเป็นโรคเปลือกตาอักเสบมาก่อน
  • มีปัญหาด้านสุขภาพผิวบางอย่าง เช่น เป็นสิว โรคผิวหนังอักเสบ โรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน
  • ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำลง เช่น การเป็นโรคเบาหวาน

ตากุ้งยิง อาการ

อาการตากุ้งยิง


อาการของผู้ที่เป็นตากุ้งยิงที่เห็นได้ชัดคือ อาการบวมแดงของเปลืองตามีลักษณะคล้ายเป็นสิว บางรายมีไข้ร่วมด้วย แต่นอกจากนี้ผู้ที่เป็นตากุ้งยิ่งยังมีอาการอื่นๆ ดังนี้


  • มีตุ่มนูนขึ้นที่เปลือกตา
  • เปลือกตาบวม แดง
  • มีอาการเจ็บบริเวณที่บวม
  • คันตา
  • ตาพร่ามัว
  • ตาไวต่อแสง
  • ไม่สบายตาเวลากระพริบ
  • น้ำตาไหล

ภาวะแทรกซ้อนจากตากุ้งยิง


ปกติแล้วตากุ้งยิงสามารถหายได้ด้วยตัวเอง แต่ในบางกรณีที่อาการรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นอาจทำให้การอักเสบลุกลามมากขึ้นได้ เช่น การอับเสบอาจลามไปที่เนื้อเยื่ออื่นๆ รอบเปลือกตา ทำให้ตาอักเสบมากขึ้นและขยายวงกว้างออกไป เรียกว่า Preseptal Cellulitis ซึ่งเป็นอาการแทรกซ้อนทางตาที่พบได้บ่อย


อาการที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องไปพบแพทย์


ถึงแม้ตากุ้งยิงที่รู้สึกเจ็บหรือบวมจากการอักเสบจะสามารถหายไปเองได้ แต่หากมีอาการติดเชื้อที่มากขึ้นหรืออาการไม่ดีขึ้น ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา เช่น เริ่มมีหนองที่มีลักษณะเป็นก้อนที่ตาและเริ่มปวด มีอาการบวมแดงเพิ่มขึ้น เริ่มมีอาการตาพร่า


consult doctor

การรักษาตากุ้งยิง


ช่วงแรกของการเป็นตากุ้งยิงสามารถรักษาเองได้ที่บ้าน ดังนี้


  • เอาผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น บิดน้ำออกแล้วเอามาประคบที่ตาทิ้งไว้ 10-15 นาที วันละ 3-5 ครั้ง การใช้น้ำอุ่นประคบจะทำให้รูที่บริเวณเปลือกตาขยายออก ลดการอุดตัน ทำให้ลดอาการบวมและเจ็บเปลือกตาได้

  • หากมีหนองบริเวณเปลือกตาด้านนอก ให้ใช้ยาหยอดตาหรือขี้ผึ้งป้ายตา

  • ในกรณีที่มีหนองอยู่บริเวณเปลือกตาด้านใน และอาการไม่ดีขึ้นใน 2-3 วัน ให้ไปพบแพทย์เพื่อเอาหนองออก

ตากุ้งยิง ยาหยอดตา

ยารักษาตากุ้งยิง


  • ยาหยอดตา Tobramycin Ophthalmic Solution ใช้หยอดทุก 4 ชั่วโมง
  • ยาป้ายแผล Tobramycin Ophthalmic Ointment ป้ายแผลทุก 4 ชั่วโมง และ Bacitracin Ophthalmic Ointment จะใช้ป้ายแผลวันละ 2-6 ครั้งแล้วแต่อาการ
  • ยาปฏิชีวนะจะใช้เป็นกลุ่มยาที่ใช้สำหรับระงับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ได้แก่ Erythromycin, Cloxacillin, Dicloxacillin และ Tetracycline

buy drug online on raksa app

ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นตากุ้งยิง


Do


  • เมื่อเป็นตากุ้งยิงควรประคบผ้าชุบน้ำอุ่นเพื่อลดการอักเสบวันละ 3-5 ครั้ง ครั้งละประมาณ 10-15 นาที
  • รักษาความสะอาดของดวงตาเพื่อไม่ให้มีเชื้อแบคทีเรียและเกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น
  • ควรล้างมือบ่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เชื้อแบคทีเรียที่อาจอยู่บนมือเข้าตา
  • งดการใช้เครื่องสำอางเพื่อให้ไม่เกิดสิ่งอุดตันเพิ่มขึ้น
  • งดการใส่คอนแทคเลนส์ เพื่อลดการสัมผัสดวงตา

Don’t


  • ห้ามผู้ป่วยบีบหนองที่ตาออกเองโดยเด็ดขาดเพราะการบีบอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปมากกว่าเดิม หรือทำให้อักเสบมากยิ่งขึ้นได้
  • ไม่ควรใช้ของใช้ เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ร่วมกับคนอื่น
  • ห้ามขยี้ตา เพราะมืออาจไม่สะอาดและเพิ่มการอักเสบได้

ตากุ้งยิง รักษา

การป้องกันตากุ้งยิง


  • ควรหมั่นดูแลรักษาดวงตาและบริเวณโดยรอบให้สะอาดอยู่เสมอ
  • ไม่ควรนำมือไปสัมผัสใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาโดยไม่จำเป็น
  • ไม่ควรขยี้ตาเพราะจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ดวงตาและเกิดการอักเสบได้
  • หากใช้เครื่องสำอาง ควรล้างทำความสะอาดให้หมด โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา
  • หากใส่คอนแทคเลนส์ ควรเลือกใช้คอนแทคเลนส์ที่สะอาดและได้มาตรฐาน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตากุ้งยิง


1. ตากุ้งยิงติดต่อไหม?


ตากุ้งยิงบางชนิดเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเชื้อแบคทีเรียนี้สามารถติดกันได้จากการสัมผัสแผลโดยตรง สัมผัสสิ่งของ หรือใช้ของร่วมกัน นอกจากนี้ตากุ้งยิงมักจะเกิดขึ้นที่ตาข้างใดข้างหนึ่ง แต่การเผลอขยี้ตาหรือจับตาบ่อยๆ อาจทำให้ติดเชื้อที่ตาอีกข้างหนึ่งด้วย


อย่างไรก็ตาม โอกาสที่เชื้อตากุ้งยิงจะติดต่อจากคนสู่คนมีน้อยมากๆ


2. ตากุ้งยิงหายเองได้ไหม?


โรคตากุ้งยิงสามารถหายเองได้ โดยตุ่มหนองจะหายไปเองใน 4-5 วัน ดังนั้นเพื่อให้ไม่มีการติดเชื้อหรืออักเสบเพิ่มเติมจึงไม่ควรเอามือสัมผัสกับดวงตาและรอบๆ ดวงตาโดยเฉพาะการขยี้ตา


3. ตากุ้งยิงไม่ยอมยุบ ควรทำอย่างไร?


ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบดวงตาเพื่อลดการอักเสบบวมของเปลือกตา และทำความสะอาดรอบๆ ดวงตาให้สะอาด อาจใช้ยาหยอดตาหรือยาป้ายตาร่วมด้วยเพื่อลดการติดเชื้อแบคทีเรีย


4. ทำไมตากุ้งยิงชอบขึ้นที่เดิมซ้ำๆ?


ผู้ป่วยที่ตุ่มหนองหายเองจากการใช้ยาหยอดตาหรือยาป้ายตา รวมถึงผู้ป่วยที่ได้รับการเจาะและขูดหนองออกอาจเกิดตากุ้งยิงซ้ำได้ เนื่องจากหนองออกไม่หมดทำให้เกิดการอักเสบซ้ำ รวมถึงอาจเกิดหนองซ้ำได้หากไม่รักษาความสะอาดรอบๆ ดวงตา


5. บีบหนองตากุ้งยิงจะช่วยให้หายเร็วขึ้นไหม?


การบีบหนองไม่ช่วยให้ตากุ้งยิงหายเร็วขึ้น แต่กลับทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบเพิ่มขึ้น หรือมีเชื้อแบคทีเรียลามไปติดยังเนื้อเยื่ออื่นๆ รอบดวงตาอีกด้วย หากต้องการบีบควรทำโดยแพทย์หรือพยาบาล


6. เป็นตากุ้งยิงจะทำให้มีไข้หรือไม่?


หากมีการอักเสบที่เปลือกตาและมีอาการบวมแดง หรือที่เรียกว่า Preseptal Cellulitis จะทำให้ผู้ป่วยมีไข้ได้


7. เจาะหนองตากุ้งยิงเจ็บไหม?


ก่อนการเจาะหนองแพทย์จะทำการหยอดยาชาที่บริเวณตาข้างที่จะดูดเพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างการดูดเจาะหนองออกมา หลังจากยาชาออกฤทธิ์แล้วแพทย์จะใช้เข็มเบอร์เล็กในการดูดหนองออกมาเพื่อให้อาการช้ำหลังจากนี้น้อยที่สุด ดังนั้นการเจาะหนองตากุ้งยิงจึงเจ็บน้อยลง


8. ตากุ้งยิงต้องประคบร้อนหรือประคบเย็น?


เป็นตากุ้งยิงควรใช้การประคบร้อน โดยการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นแล้วประคบที่ตา 10-15 นาที เพื่อให้ลดการอักเสบที่บริเวณเปลือกตาและช่วยให้เปลือกตาที่เกิดการบวมแดงลดลงได้ด้วย




✅ ตรวจสอบข้อมูลโดย


นพ. ปองคุณ อารยะทรงศักดิ์




แหล่งข้อมูล